นาย”เตียว ฮุยฮวด” ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท MBI กรุ๊ป ซึ่งหลอกลวงประชาชนในประเทศจีนไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน และโกงเงินไปถึง 5 แสนล้านหยวน ในที่สุดถูกตำรวจไทยจับกุมในปี 2022 ในข้อหาฟอกเงินจากกิจกรรมการพนันออนไลน์
ศาลไทยได้มีคำตัดสินขั้นสุดท้ายให้ส่งตัวนาย”เตียว ฮุยฮวด” ไปยังประเทศจีนตามคำพิพากษาภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่มีคำพิพากษาสิ้นสุด
แม้ว่าอัยการจะร้องขอให้ศาลขยายกำหนดเวลาในการส่งตัว และได้รับการอนุมัติให้ขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน แต่เมื่อวัน 21 สิงหาคม ทางการไทยได้ให้ส่งตัวนาย”เตียว ฮุยฮวด” ไปยังประเทศจีนแล้ว
ตามรายงานของสื่อไทย เจ้าหน้าที่จากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้นำตัวนาย”เตียว ฮุยฮวด” ออกจากเรือนจำในกรุงเทพฯ และบินจากกรุงเทพฯ ไปยังเซี่ยงไฮ้
นาย”เตียว ฮุยฮวด” ชาวจีนเชื้อสายมาเลเซีย ได้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท MBI กรุ๊ปในมาเลเซีย และดำเนินการขายแผนการลงทุนทางการเงินและสกุลเงินเสมือนในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่จริงแล้วเขาได้สร้างเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ขึ้นมา โดยใช้ข้ออ้างในการให้บริการ เรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือบังคับให้ผู้เข้าร่วมซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นสมาชิก ซึ่งเป็นวิธีการหลอกลวงเอาเงิน
เพื่อให้ผู้ลงทุนรายใหญ่เชื่อถือในตัวเอง นาย”เตียว ฮุยฮวด” ยังได้จัดทัวร์ท่องเที่ยวไปยังมาเลเซีย มัลดีฟส์ และสถานที่อื่น ๆ โดยใช้โอกาสนี้ในการแสดงถึงความแข็งแกร่งของบริษัท และใช้โอกาสนี้ในการโฆษณาภายนอกเพื่อดึงดูดผู้คนให้มาลงทุนมากขึ้น
กลุ่มบริษัท MBI กรุ๊ปเจริญรุ่งเรืองในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ในปี 2019 บริษัท MBI กรุ๊ปก็ล่มสลาย นักลงทุนชาวจีนหลายล้านคนกลายเป็นบุคคลล้มละลายชั่วข้ามคืน
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม มีพลเมืองจีนจำนวนไม่น้อยเดินทางไกลมาถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยพวกเขาคุกเข่าร้องไห้บนท้องถนน เพื่อขอให้ทางการมาเลเซียช่วยเหลือในการทวงคืนเงินกว่าร้อยล้านหยวนที่ถูกโกงไป
หน้าสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศมาเลเซีย เหยื่อที่ถูกหลอกลวงร้องไห้ด้วยความเสียใจ และเล่าเรื่องราวของพวกเขาที่ถูกหลอกลวง ตามที่เหยื่อเปิดเผย ในจีนยังมีเหยื่อมากกว่า 2 ล้านคน ที่ถูกโกงเงินไปสูงถึง 5 แสนล้านหยวน (ประมาณ 900 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์)
ยังมีเหยื่อบางรายที่ไม่สามารถรับความจริงที่ว่า บริษัท MBI กรุ๊ปล่มสลายและตนเองถูกหลอกลวง จนถึงขั้นฆ่าตัวตาย
หลังจากเกิดเรื่อง นาย”เตียว ฮุยฮวด” ได้บินไปประเทศไทยและบวชในวัด ในช่วงที่อยู่ในประเทศไทย เขาได้ทำการลงทุนหลายประเภท หลังจากถูกจับกุม เขาถูกตัดสินให้ส่งตัวกลับไปยังประเทศจีน
หลังจากการล่มสลายของบริษัท MBI กรุ๊ปไม่นาน ทั้งอาคารก็ร้างผู้คน และนาย”เตียว ฮุยฮวด” ผู้ที่เป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมนี้ ไม่เพียงแต่ไม่คืนเงินให้กับผู้คนที่ถูกโกง แต่ยังบินไปประเทศไทยและบวชในวัดอันศักดิ์สิทธิ์
ต่อมาในปี 2020 ตำรวจจีนได้ออกหมายจับผ่านอินเตอร์โพลเพื่อตามล่านาย”เตียว ฮุยฮวด” และในปี 2021 ตำรวจมาเลเซียก็ออกหมายจับนาย”เตียว ฮุยฮวด” ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง “แชร์ลูกโซ่ขนาดใหญ่” และขายหุ้นของกลุ่มบริษัท MBI กรุ๊ปให้กับสาธารณชน รวมถึงการยึดทรัพย์สินของนาย”เตียว ฮุยฮวด”
เนื่องจากเขาถูกออกหมายจับทั้งในมาเลเซียและจีน นาย”เตียว ฮุยฮวด” จึงไม่สามารถดำเนินธุรกิจในจีนและมาเลเซียต่อไปได้ ทำให้เขาเลือกที่จะลงทุนในประเทศไทย
เขาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเกือบ 10 ปี ดำเนินธุรกิจโรงแรม สถานบันเทิง สวนสนุก ตลาด การก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และเฟอร์นิเจอร์ รวมมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท (ประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์)
ในช่วงที่อยู่ประเทศไทย นาย”เตียว ฮุยฮวด” ได้สร้างและซื้อโรงแรมระดับห้าดาวจำนวนหกแห่ง และสถานบันเทิงกว่า 10 แห่ง นอกจากนี้เขายังใช้เงิน 50 ล้านบาท (ประมาณ 76 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์) ในการสร้างพระพรหมสี่หน้าให้กับวัดพราหมณ์ในด่านนอก เพื่อให้คนไทยและนักท่องเที่ยวมากราบไหว้
ตำรวจไทยได้จับกุมนาย”เตียว ฮุยฮวด” ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2022 ตำรวจจีนและมาเลเซียได้ยื่นคำร้องต่อประเทศไทยเพื่อขอส่งตัวนายเตียว ฮุยฮวดกลับไปรับการสอบสวน ศาลไทยได้ตัดสินเมื่อวันที่ 18 มกราคมปีที่แล้วให้นาย”เตียว ฮุยฮวด” ถูกส่งตัวไปยังประเทศจีนเพื่อรับการพิจารณาคดี และการอุทธรณ์ของนายเตียว ฮุยฮวดก็ถูกปฏิเสธ